เมนู

ไม่มีปัจจัย) ปาจารย์ของเราทั้งหลายเป็นอเหตุกอปัจจยวาที ปาจารย์ของ
อาจารย์ของเราทั้งหลายเป็นอเหตุกอปัจจยวาที ชื่อว่า ดำเนินไปตามการสืบ
ต่ออาจารย์
.
ติตถายตนะที่ดำเนินไปอย่างนี้ คือ อาจารย์ของเราทั้งหลาย เป็น
ปุพเพกตลัทธิกบุคคล (บุคคลผู้มีลัทธิว่า กรรมที่ทำไว้ในชาติก่อนเป็นเหตุ)
ปาจารย์ของเราทั้งหลาย ฯ ล ฯ ปาจารย์ของอาจารย์ของเราทั้งหลาย เป็นอเหตุก-
อปัจจยลัทธิกบุคคล (บุคคลผู้มีลัทธิว่า ไม่มีเหตุ ไม่มีปัจจัย) ชื่อว่า ดำเนิน
ไปตามการสืบต่อลัทธิ
.
ติตถายตนะที่ดำเนินไปอย่างนี้ คือ อัตภาพของอาจารย์เราทั้งหลาย
มีกรรมที่ทำไว้ในชาติก่อนเป็นเหตุ อัตภาพของปาจารย์เราทั้งหลาย ฯลฯ
อัตภาพของปาจารย์ของอาจารย์ของเราทั้งหลาย ไม่มีเหตุ ไม่มีปัจจัย ชื่อว่า
ดำเนินไปตามความสืบต่ออัตภาพ.
ก็ ติตถายตนะเหล่านั้น ย่อมดำเนินไปแม้สุดแสนไกลอย่างนี้ ย่อม
ดำรงอยู่ในฐานะมาตรว่า เป็นอกิริยทิฏฐินั่นเอง. ผู้สร้างหรือผู้ให้สร้าง
ของมิจฉาทิฏฐิกบุคคลเหล่านั้น ก็ไม่ปรากฏแม้แต่คนเดียว.

สัตว์ - บุรุษ - บุคคล


บทว่า ปุริสปุคฺคโล ได้แก่ สัตว์. อันที่จริง เมื่อพระผู้มีพระ-
ภาคเจ้าตรัสว่า บุรุษบ้าง ตรัสว่า บุคคลบ้าง ก็เป็นอันตรัส (หมายถึง) สัตว์
นั่นแหละ. แต่กถานี้จัดเป็นสมมติกถา. บุคุคลใดจะเข้าใจได้อย่างใด ก็ตรัส
แก่บุคคลนั้นอย่างนั้น. บทว่า ปฏิสํเวเทติ ความว่า ย่อมรู้จักสุขเวทนา
ทุกขเวทนา หรือ อทุกขมสุขเวทนา ที่เกิดขึ้นในสันดานของตน คือ ทำ
สุขเวทนา ทุกขเวทนา หรือ อทุกขมสุเวทนา ให้เป็นอันตนรู้แจ้ง
แล้วหรือย่อมเสวย.